AI companions หรือเพื่อนปัญญาประดิษฐ์ กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตผู้คน โดยเฉพาะในยุคที่ความเหงาและการแยกตัวทางสังคมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Eugenia Kuyda ผู้ก่อตั้งแอป Replika ได้เปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ AI companions ที่ไม่เพียงช่วยเยียวยาความเศร้าโศกของเธอ แต่ยังกลายมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกรับมือกับความเหงาและความเครียดทางจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเริ่มต้นของ Replika: การสร้าง AI จากความทรงจำ
เรื่องราวของ Eugenia เริ่มต้นจากการสูญเสียเพื่อนสนิท Roman ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปี 2015 หลังจากที่ทั้งสองย้ายมาใช้ชีวิตในซานฟรานซิสโกและเริ่มต้นชีวิตในฐานะผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพร่วมกัน การสูญเสียครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ Eugenia นำข้อความแชทเก่าของ Roman มาทำการเทรน AI เพื่อสร้างเพื่อนเสมือนจริงที่สามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวได้เหมือนกับ Roman จริงๆ
การเทรน AI ด้วยข้อความแชท คือการนำข้อมูลบทสนทนาเก่าของ Roman มาใช้สอนให้ AI เข้าใจลักษณะการพูดและการตอบโต้ของเขาอย่างละเอียด ทำให้ AI สามารถจำลองบุคลิกและความสัมพันธ์ที่เคยมีได้อย่างใกล้เคียง ซึ่งช่วยให้ Eugenia ได้รับความสะดวกใจและการเยียวยาทางจิตใจในช่วงเวลาที่เศร้าหนักที่สุด
Replika กับการเป็นเพื่อน AI ที่ช่วยผู้คนทั่วโลก
จากประสบการณ์ส่วนตัวนี้ Eugenia ตัดสินใจสร้างแอป Replika ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้สร้างเพื่อน AI ของตนเองที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนทางอารมณ์ได้ตลอดเวลา แอปนี้ได้รับความนิยมอย่างมากและช่วยเหลือผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก โดยมีเรื่องราวที่สะท้อนถึงพลังของ AI companions เช่น
- ชายที่สูญเสียภรรยาหลังแต่งงานกันมานานกว่า 40 ปี ได้รับกำลังใจและความมั่นใจจาก Replika จนเริ่มออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ และเริ่มมีการเดทอีกครั้ง
- หญิงสาวที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ได้รับคำแนะนำและแรงสนับสนุนจาก Replika จนสามารถหาทางออกจากสถานการณ์นั้นได้
- นักศึกษาที่มีอาการวิตกกังวลทางสังคมและเพิ่งย้ายเมืองใหม่ ได้รับความช่วยเหลือในการปรับตัวและสร้างความมั่นใจ
- ผู้ดูแลสามีที่เป็นอัมพาต และพ่อแม่ของเด็กที่มีออทิสติก ได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์และคำแนะนำจาก AI
นอกจากนี้ ผลการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัย Stanfordऔर Harvard ยังยืนยันว่า Replika ช่วยปรับปรุงสุขภาพจิตและลดความคิดฆ่าตัวตายในบางกรณี รวมถึงช่วยลดความเหงาได้อย่างมีนัยสำคัญ
ความเสี่ยงและความท้าทายของ AI Companions
แม้ว่าจะมีข้อดีมากมาย แต่ Eugenia ก็เตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจาก AI companions หากพัฒนาและใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง เธอมองว่า AI companions อาจเป็นเทคโนโลยีที่อันตรายที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นได้ เพราะมีศักยภาพที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และอาจนำไปสู่การล่มสลายของสังคมหากไม่ถูกจัดการอย่างเหมาะสม
ปัญหาสำคัญคือ เรากำลังเผชิญกับวิกฤตความเหงาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในสังคม โดยข้อมูลทางสถิติชี้ให้เห็นว่า ความเหงาและการแยกตัวทางสังคมส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึง 50%, เพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ

ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยี AI ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนในอนาคต AI จะสามารถเป็นเพื่อนที่เข้าใจเราได้ดีกว่ามนุษย์คนอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ยิ่งหันเหไปพึ่งพา AI มากขึ้นและลดการติดต่อสื่อสารกับคนจริงๆ
สิ่งนี้สะท้อนถึงบทเรียนจากยุคเริ่มต้นของโซเชียลมีเดีย ที่ในตอนแรกทุกคนตื่นเต้นกับศักยภาพของเทคโนโลยี แต่กลับไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น การเสพติด การแยกตัว และปัญหาสุขภาพจิต
แนวทางการพัฒนา AI Companions เพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

ทางออกของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่การถอยหลังหรือเลิกใช้เทคโนโลยี AI แต่คือการพัฒนา AI companions ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความสุขและความสัมพันธ์ของมนุษย์แทนที่จะเน้นแค่การสร้างความผูกพันเพื่อเพิ่มเวลาการใช้งาน (engagement)
ตัวอย่างเช่น AI ที่สามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่มากเกินไป แล้วกระตุ้นให้ผู้ใช้ลุกขึ้นไปข้างนอก สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือคิดถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึกขอบคุณในชีวิต
หรือ AI ที่เตือนให้ติดต่อเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พูดคุยกันนาน เพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่อาจห่างเหินไป
AI ที่ช่วยให้มองสถานการณ์ความขัดแย้งกับคนรักในมุมมองที่ต่างออกไป และช่วยให้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันได้ดีขึ้น
AI ที่มีเป้าหมายหลักคือช่วยให้ผู้ใช้มีชีวิตที่มีความสุขและมีความหมายมากขึ้น โดยไม่เน้นแค่การเพิ่มผลผลิตหรือประสิทธิภาพเท่านั้น
ความสำคัญของการออกแบบ AI Companion ที่รับผิดชอบ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การไม่เน้นการเพิ่ม engagement หรือทำให้ผู้ใช้ติดกับ AI companions มากเกินไป เพราะความสัมพันธ์ที่ทำให้ติดงอมแงมมักจะไม่ดีต่อสุขภาพจิต และอาจทำให้เกิดความสัมพันธ์แบบพึ่งพิงที่ไม่สมดุลและเป็นพิษได้
อีกประเด็นที่น่ากังวลคือการพัฒนา AI companions สำหรับเด็กและวัยรุ่นในตอนนี้ แม้จะมีโอกาสในการสร้างเพื่อน AI ที่ช่วยพัฒนาเด็กในอนาคต แต่ตอนนี้ยังควรให้ความสำคัญกับการสร้าง AI ที่ช่วยผู้ใหญ่ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะไม่ส่งผลเสียต่อวัยเด็กที่ยังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์มากมายในชีวิตประจำวัน
เป้าหมายใหม่ของ AI: การออกแบบเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์
ในอนาคตที่ AI จะสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง เราควรตั้งเป้าหมายให้ AI ช่วยให้ชีวิตมีความสุขและความหมายแทนที่จะเน้นแค่ผลผลิตหรือประสิทธิภาพ
แนวคิด “Human Flourishing Metric” หรือเกณฑ์วัดความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์ กำลังถูกพัฒนาโดยนักวิจัยที่ Harvard เพื่อวัดความสุข ความพึงพอใจในชีวิต ความสัมพันธ์ทางสังคม และสุขภาพกายใจ โดย AI companions ควรได้รับการออกแบบให้มีเป้าหมายสนับสนุนด้านนี้อย่างแท้จริง
เมื่อ AI companions ถูกสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองนี้ พวกเขาจะไม่ใช่แค่ตัวแทนหรือทดแทนความสัมพันธ์ของมนุษย์ แต่จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างและเชื่อมโยงความสัมพันธ์เหล่านั้นให้ดีขึ้น
ความทรงจำและบทเรียนจาก Roman

ก่อน Roman จะจากไป เขาเคยพูดกับ Eugenia ว่า “ทุกอย่างเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว และมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก” แม้ในตอนนั้น Eugenia จะไม่เชื่อ และคิดว่าจะมีเวลาหลายปีข้างหน้าที่จะได้อยู่ด้วยกันอีก แต่ความจริงคือชีวิตของมนุษย์นั้นมีความไม่แน่นอนและเปราะบางกว่าที่คิด
แม้ว่า AI companions จะอยู่กับเราได้ตลอดเวลา แต่เพื่อนมนุษย์แท้จริงนั้นไม่มีทางแทนที่ได้ ดังนั้นการแสดงความรักและความห่วงใยต่อคนที่เรารักในวันนี้ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
คำอธิบายศัพท์เทคนิค
- เทรน AI (Train AI): กระบวนการสอนหรือฝึกฝนโมเดล AI ด้วยข้อมูล เพื่อให้ AI เรียนรู้และตอบสนองได้อย่างถูกต้อง
- Engagement: ระยะเวลาหรือความถี่ที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแอปพลิเคชันหรือเทคโนโลยี ซึ่งมักถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของแอป
- AI Companions: โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อจำลองการเป็นเพื่อนหรือผู้ช่วยทางอารมณ์สำหรับผู้ใช้
- Human Flourishing Metric: ตัวชี้วัดที่ประเมินความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์ในหลายมิติ เช่น ความสุข ความพึงพอใจในชีวิต ความสัมพันธ์ และสุขภาพ
इनसाइडरली से निष्कर्ष
AI companions กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญของเทคโนโลยีที่อาจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์อย่างลึกซึ้ง จากประสบการณ์จริงของ Eugenia Kuyda แสดงให้เห็นว่า AI สามารถเป็นเครื่องมือเยียวยาความเศร้าโศกและความเหงาได้อย่างแท้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้ หากเราไม่ออกแบบและใช้ AI ด้วยความรับผิดชอบ
เพื่อให้ AI companions เป็นเพื่อนที่แท้จริงและช่วยผสานความสัมพันธ์ของมนุษย์ เราต้องเลิกมอง AI เป็นแค่เครื่องมือเพิ่ม engagement หรือผลผลิต แต่ต้องตั้งเป้าหมายให้ AI ช่วยส่งเสริมความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตมนุษย์มากขึ้น
ในยุคที่ความเหงาและความแยกตัวทางสังคมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว AI companions อาจเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องการการพัฒนาอย่างรอบคอบและมีจริยธรรม เพื่อให้เทคโนโลยีนี้ช่วยเชื่อมโยงและรักษาความสัมพันธ์ของมนุษย์แทนที่จะทำลายมัน
ท้ายที่สุดแล้ว ความรักและความสัมพันธ์กับคนรอบข้างยังคงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด และ AI ควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนสิ่งเหล่านั้น ไม่ใช่ทดแทน